1. สร้างจุดขายที่ไม่เหมือนใครสำหรับธุรกิจของคุณ:

• ระบุกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของคุณ: คุณต้องการรับงานประเภทใด? บ้านพักอาศัย? อาคารพาณิชย์? โรงงาน? การมุ่งเน้นไปที่กลุ่มลูกค้าเฉพาะ จะช่วยให้คุณสร้างกลยุทธ์ทางการตลาดที่ตรงจุด
• นำเสนอบริการที่ไม่เหมือนใคร: อะไรที่ทำให้คุณแตกต่าง? ระยะเวลารับประกันของคุณคืออะไร? คุณมีบริการหลังการขายแบบใด? การนำเสนอบริการที่ไม่เหมือนใคร จะดึงดูดลูกค้า
• สร้างแบรนด์ให้กับธุรกิจของคุณ: ออกแบบโลโก้ ตั้งชื่อบริษัทและสโลแกน และสร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์ สิ่งนี้จะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและทำให้ธุรกิจของคุณน่าจดจำ

2. มุ่งเน้นไปที่การตลาดออนไลน์:

• สร้างเว็บไซต์: เว็บไซต์คือหน้าร้านออนไลน์ของคุณ แสดงข้อมูลบริษัท ผลงาน บริการ และข้อมูลติดต่อ ลูกค้าสามารถค้นหาข้อมูล เปรียบเทียบ และตัดสินใจใช้บริการของคุณ
• ใช้โซเชียลมีเดีย: แชร์ผลงาน บทความ รีวิว และโปรโมชั่นของคุณบน Facebook, Line, Instagram และ TikTok สร้างการมีส่วนร่วมและดึงดูดลูกค้า
• ลงโฆษณาออนไลน์: ใช้ Google Ads และ Facebook Ads เพื่อกำหนดเป้าหมายกลุ่มเฉพาะ ตั้งงบประมาณ และสร้างข้อความและรูปภาพที่ดึงดูดใจ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้า

3. เข้าร่วมประมูลงาน:

• หาโอกาสในการประมูลงาน: ค้นหาเว็บไซต์ของรัฐ เอกชน และผู้รับเหมา เลือกโครงการที่ตรงกับประเภท ขนาด งบประมาณ และประสบการณ์ของคุณ
• เตรียมเอกสารของคุณ: เตรียมใบอนุญาตประกอบธุรกิจ ทะเบียนการค้า ใบรับรองการทำงาน และใบเสนอราคาให้พร้อม เตรียมพร้อมเพื่อเพิ่มโอกาสในการชนะการประมูล

4. สร้างเครือข่าย:

• เข้าร่วมสมาคมผู้รับเหมา: แลกเปลี่ยนประสบการณ์ ความรู้ ข้อมูล และโอกาสทางธุรกิจ ทำความรู้จักกับผู้รับเหมาคนอื่นๆ
• เข้าร่วมงาน: เข้าร่วมสัมมนา งานแสดงสินค้า และงานเปิดตัวโครงการ เพื่อพบปะลูกค้าและพันธมิตร และสร้างโอกาสทางธุรกิจ
• ทำความรู้จักกับสถาปนิก วิศวกร และตัวแทนอสังหาริมทรัพย์: สร้างความสัมพันธ์ รับการอ้างอิง และสร้างโอกาสทางธุรกิจ

5. แจกใบปลิวและโบรชัวร์:

วิธีอาจจะดูล้าหลังไปหน่อย แต่มีก็ดีกว่าไม่มี และยังได้ผลอยู่นะ ทำเอาไว้แจกให้แก่ผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมโครงการ

• ออกแบบให้สวยดูหรูและดึงดูดใจ: ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีข้อมูลครบถ้วน ชัดเจน และน่าสนใจ
• เข้าร่วมงาน Exhibition ต่างๆ แจกจ่ายให้ผู้ที่สนใจอยากมีบ้านที่มาเดินในงาน เช่น บ้านและสวนแฟร์ ฯลฯ แจกจ่ายให้แก่คนที่มาเยี่ยมชมโครงการ

6. ลงโฆษณาในสื่อท้องถิ่น:

• สื่อออนไลน์ท้องถิ่น: ใช้ป้ายโฆษณา วิทยุ และสื่อออนไลน์ท้องถิ่น เช่นกลุ่ม Facebook ของพื้นที่นั้นๆ หากไม่ได้รับอนุญาตให้โฆษณา อาจจะต้อง Inbox หาแอดมินเพื่อหาข้อเสนอหรือทางเลือกที่เหมาะ แลกกับการลงโฆษณาในกลุ่ม เลือกสื่อที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของคุณได้ดีที่สุด

“ทำให้โฆษณาของคุณชัดเจน กระชับ และน่าจดจำ มุ่งเน้นไปที่เนื้อหาที่สำคัญ ที่เป็นจุดเด่นของโครงการ”

7. ตั้งราคาขายที่แข่งขันได้:

• สำรวจตลาด คู่แข่ง ต้นทุนการก่อสร้าง และวัสดุก่อสร้าง ตั้งราคาบ้านที่ยุติธรรม
• ตั้งราคาที่สอดคล้องกับคุณภาพของงาน ไม่ตั้งราคาที่ต่ำจนไม่มีกำไร หรือสูงเกินไป

สำหรับลูกค้าโครงการหรือผู้รับเหมาที่ต้องการสินค้าวัสดุก่อสร้างราคาพิเศษสำหรับโครงการ สามารถติดต่อได้ที่ช่องทางต่อไปนี้

• เบอร์โทร: 083-024-3351
• LINE: @aycon
• เว็บไซต์: www.aycontento.com

8. เสนอบริการหลังการขาย

การเสนอบริการหลังการขาย เช่น การรับประกันงาน บริการซ่อมแซม บริการดูแลรักษา ฯลฯ จะช่วยสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า และทำให้พวกเขากลับมาใช้บริการของคุณอีก หรือแนะนำต่อให้กับคนอื่น ๆ

9. รักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า

การรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าเก่าเป็นสิ่งสำคัญ แนะนำให้ติดต่อสอบถาม พูดคุย แจ้งข่าวสาร โปรโมชั่น ฯลฯ ให้กับลูกค้าเก่าอยู่เสมอ เพื่อสร้างความประทับใจ และทำให้พวกเขากลับมาใช้บริการของคุณอีก ถึงแม้ไม่ใช่ลูกค้าเก่าที่กลับมาซื้อ แต่อย่างน้อยเขาอาจจะบอกเพื่อนสนิท หรือคนรู้จักของเขาต่อแน่นอน

10. พัฒนาธุรกิจอยู่เสมอ

การพัฒนาธุรกิจอยู่เสมอ เช่น การพัฒนาทักษะ ความรู้ ความเชี่ยวชาญ การใช้อุปกรณ์ เครื่องมือ เทคโนโลยีใหม่ ๆ ฯลฯ จะช่วยเพิ่มศักยภาพของธุรกิจของคุณ และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้า

บทสรุปสำหรับผู้รับเหมาก่อสร้างมือใหม่

การหาลูกค้าใหม่ ๆ เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับผู้รับเหมาก่อสร้างมือใหม่ กลยุทธ์ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นเพียงแนวทางเบื้องต้น แนะนำให้เลือกใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ และปรับให้เข้ากับสถานการณ์ สภาพตลาด และกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย