ไวร์เมช คืออะไร?

ไวร์เมช คือตะแกรงเหล็กที่ผลิตจากลวดเหล็กรีดเย็น นำมาเชื่อมติดกันเป็นผืน มีหลายขนาด รูปทรง และความหนา นิยมใช้เสริมแรงคอนกรีตในงานก่อสร้างหลากหลายประเภท

ประเภทของไวร์เมช

ไวร์เมชสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก ดังนี้

1. ไวร์เมชแบบเส้นกลม: ผลิตจากลวดเหล็กกลม มีลักษณะเรียบ เหมาะกับงานทั่วไป เช่น พื้นคอนกรีต ผนัง
2. ไวร์เมชแบบข้ออ้อย: ผลิตจากลวดเหล็กข้ออ้อย มีลักษณะเป็นเส้นนูน เหมาะกับงานที่ต้องการรับแรงดึงสูง เช่น ถนน พื้นสะพาน

ขนาดของไวร์เมช

ไวร์เมชมีหลายขนาด โดยระบุขนาดเป็นเส้นผ่านศูนย์กลางของลวด และขนาดช่องตะแกรง 

ตัวเลขแรก หมายถึง เส้นผ่านศูนย์กลางของลวด (หน่วยมิลลิเมตร)

ตัวเลขที่สอง หมายถึง ระยะห่างของช่องตะแกรง (หน่วยเซนติเมตร)

ตัวอย่าง: ไวร์เมชขนาด D6@15 หมายถึง ไวร์เมชแบบเส้นกลม เส้นผ่านศูนย์กลาง 6 มม. ระยะห่างของช่องตะแกรง 15 ซม. แต่ในวงก่อสร้างเมืองไทยบ้านเรา จะนิยมเรียก ตัวเลขแล้วด้วย มม. มากกว่า เช่น  6 มม. @ 15 ซม.

ตัวอย่างขนาดไวร์เมชที่นิยมใช้ เช่น

• 4 มม. @ 15 ซม.
• 5 มม. @ 15 ซม.
• 6 มม. @ 20 ซม.
• 10 มม. @ 20 ซม. 

ข้อดีของการใช้ไวร์เมช

• เพิ่มแรงดึงให้กับคอนกรีต: ไวร์เมชช่วยรับแรงดึงที่เกิดขึ้นในคอนกรีต ทำให้โครงสร้างมีความแข็งแรง ทนทาน
• ติดตั้งง่าย: ไวร์เมชมีน้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย ประหยัดเวลา และแรงงาน
• ลดการแตกร้าว: ไวร์เมชช่วยกระจายแรงในคอนกรีต ลดการแตกร้าว
• ยึดเกาะกับคอนกรีตได้ดี: ไวร์เมชมีผิวสัมผัสขรุขระ ช่วยให้ยึดเกาะกับคอนกรีตได้ดี
• ใช้งานได้หลากหลาย: ไวร์เมชสามารถใช้ได้กับงานก่อสร้างหลากหลายประเภท

5 ข้อมูลสำคัญที่ควรรู้ก่อนใช้งานไวร์เมช

1. เลือกขนาดไวร์เมชให้เหมาะสมกับงาน: ควรเลือกขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของลวด และขนาดช่องตะแกรงให้เหมาะกับการใช้งาน

2. เลือกประเภทของไวร์เมชให้เหมาะสม: เลือกแบบเส้นกลมสำหรับงานทั่วไป หรือแบบข้ออ้อยสำหรับงานรับแรงดึงสูง

3. ตรวจสอบมาตรฐาน: เลือกซื้อไวร์เมชที่ได้มาตรฐาน มอก. 737-2549

4.คำนวณปริมาณการใช้ไวร์เมช: คำนวณปริมาณการใช้ไวร์เมชให้เพียงพอต่อการใช้งาน

5. วิธีการติดตั้งไวร์เมช: ศึกษาและทำความเข้าใจวิธีการติดตั้งไวร์เมชอย่างถูกต้อง

ตัวอย่างการใช้งานไวร์เมช

• พื้นคอนกรีต
• ผนังคอนกรีต
• ถนน
• พื้นสะพาน
• คาน
• เสา
• ท่อระบายน้ำ
• งาน precast